ให้อาหารลูกสุนัขอย่างไร

ในบทความนี้ หมอผู้เขียนมีคำแนะนำง่ายๆ เกี่ยวกับการให้อาหารลูกสุนัขที่กำลังโต ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ ไปจนถึงหนึ่งปี ลูกสุนัขวัยต่ำกว่า 1 ปีนั้น ก็จะเหมือนเด็กที่กำลังโต โครงสร้างขยายรวดเร็ว เขาจะกินเก่ง กินทุกอย่าง จึงไม่แนะนำให้จำกัดอาหารเขาจนเกินไป

เมื่ออายุได้ 3 สัปดาห์

ผู้เลี้ยงควรเริ่มฝึกลูกสุนัขให้เลียอาหารอ่อนๆ ซึ่งอาจเป็นอาหารเม็ดสำหรับลูกสุนัขที่นำมาแช่กับน้ำอุ่นให้อ่อนตัว วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดภาระให้กับแม่สุนัขด้วย ประกอบกับในระยะนี้ น้ำนมแม่อาจเริ่มลดลงบ้างแล้ว ซึ่งขึ้นกับความสมบูรณ์ของเต้านมแม่สุนัข บวกกับอาหารที่เราใช้บำรุงเลี้ยงเธอ

การเสริมไข่ต้มให้กับแม่สุนัขวันละ 1-2 ฟอง สามารถลดโอกาสการเกิดภาวะไข้น้ำนมหลังคลอดได้เป็นอย่างดี อันนี้ไม่ได้มีในตำรา แต่เก็บเกี่ยวมาจากประสบการณ์โดยตรงของหมอผู้เขียนเอง ตำรามักแนะนำให้เสริมอาหารด้วยน้ำนมและธาตุแคลเซียมให้แม่สุนัขที่กำลังให้นมบุตร แต่หมอก็ยังพบเห็นอาการไข้น้ำนมอยู่ แต่ในทางกลับกัน ตั้งแต่ให้ไข่ต้มแก่แม่สุนัข หมอก็แทบไม่พบเห็นอาการนี้อีกเลยในแม่สุนัขหลายๆ ตัวที่รักษาและเลี้ยงมา ภาวะไข้น้ำนมนั้นไม่ธรรมดา!! เพราะหากแก้ไขไม่ทันก็มักถึงแก่ชีวิตเลยทีเดียว และถึงแม้จะแก้ไขภาวะได้แล้ว ก็มักกลับมาเป็นซ้ำได้อีก

เมื่ออายุได้เดือนครึ่ง

ลูกสุนัขสามารถหย่านมแม่เมื่อเข้าสู่อายุ 45 วัน (หรือประมาณเดือนครึ่ง) อาหารอ่อนๆที่เจ้าของให้กับลูกสุนัข ควรวางให้ปลอดจากมดและแมลงต่างๆ (โดยเฉพาะแมลงวัน) เพราะจะนำโรคทางระบบทางเดินอาหารได้โดยง่าย ลูกสุนัขที่ท้องเสียจะมีโอกาสตายได้ง่าย

ผู้เลี้ยงควรให้อาหารเขาวันละ 4 มื้อ พร้อมตั้งน้ำสะอาดไว้ตลอดเวลา ความสะอาดของภาชนะเป็นสิ่งสำคัญมาก มีความจำเป็นต้องล้างมื้อต่อมื้อ จำนวนมื้ออาหารนั้น สามารถลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ปริมาณอาหารให้คำนวณตามบรรจุภัณฑ์ของชนิดนั้นๆ และปรับเล็กน้อยตามปริมาณความต้องการของลูกสุนัข

“ลูกสุนัขวัยต่ำกว่า 1 ปี ก็จะเหมือนเด็กที่กำลังโต โครงสร้างขยายรวดเร็ว เขาจะกินเก่ง กินทุกอย่าง จึงไม่แนะนำให้จำกัดอาหารเขาจนเกินไป” — Tips from vets

เมื่ออายุ 4 เดือน

เราสามารถปรับเป็นให้อาหาร 3 มื้อ ส่วนปริมาณนั้นขึ้นกับความต้องการของลูกสุนัขแต่ละตัว จนเมื่ออายุได้ 1 ปี ก็สามารถปรับลดเหลือวันละ 2 มื้อ เช้า – เย็น ได้ ลูกสุนัขวัยต่ำกว่า 1 ปี ก็จะเหมือนเด็กที่กำลังโต โครงสร้างขยายรวดเร็ว เขาจะกินเก่ง กินทุกอย่าง จึงไม่แนะนำให้จำกัดอาหารเขาจนเกินไป เห็นบางคนเลี้ยงสุนัขแล้วรู้สึกอนาถใจ จำกัดอาหารโดยการนับเม็ด หรือใช้แค่ช้อนตวงให้เขากิน หมอถามว่าเขากินหมดไหม เขาบอกหมดทุกมื้อและหิวตลอดด้วย ฟังแล้วให้รู้สึกสงสารและหดหู่ใจ ในความโชคไม่ดีของสุนัขตัวนั้นยิ่งนัก แสดงว่า ผู้เลี้ยงเลี้ยงลูกสุนัขแบบหิวสะสมตลอดเวลา คงกลัวว่าเดี๋ยวจะตัวโตเกินแล้วไม่น่ารัก หรืออาจจะประหยัดก็ไม่อาจทราบได้ ก็ได้แต่แนะนำเขาไปอย่างใจเย็นว่า ลูกสุนัขนั้นจะตัวโตตัวเล็ก ก็ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมที่ได้มา ไม่ต้องมาบีบอาหารเขาแบบนี้…

หลังจากอายุ 1 ปี

หลังจากอายุ 1 ปี หากเราให้อาหาร 2 มื้อ แล้วเกินความต้องการเขา อาจกินเพียงเล็กน้อยในมื้อเช้า เราก็สามารถปรับเหลือเพียง 1 มื้อ เป็นช่วงบ่ายอย่างเดียวได้ คือสามารถปรับตามความต้องการของร่างกายเขา ซึ่งเขาจะใช้พลังงานลดน้อยลงแล้ว

ระยะขวบปีแรกของสุนัขพันธุ์เล็ก เราอาจไม่ต้องให้อาหารเสริมแต่อย่างใด หากเขาได้รับอาหารประจำวันเพียงพอ แต่สำหรับสุนัขพันธุ์ใหญ่ ถึงใหญ่มาก ควรต้องมีอาหารเสริมซึ่งเป็นวิตามิน แร่ธาตุ สามารถเริ่มให้ได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป เนื่องจากร่างกายจะเจริญเติบโตในอัตราส่วนที่รวดเร็วมาก จึงกินจุมากๆ แต่ถึงกระนั้นแคลเซียมที่ได้จากอาหารก็ยังไม่พอเพียงในการสร้างกระดูก ดังนั้น เพื่อให้กระดูกแข็งแรง ไม่คดงอเป็นโรคกระดูกอ่อน และให้กล้ามเนื้อทำงานได้เต็มที่ จึงควรหาซื้อแคลเซียม และวิตามิน มาป้อนเขาจนอายุถึง 18 เดือน เพื่อให้มีร่างกายที่สง่างาม

สิ่งที่หมออยากแนะนำเพิ่มเติมอีกหนึ่งอย่าง ก็คงหนีไม่พ้นไข่ต้มอีกเช่นเคย ถือเป็นสุดยอดอาหารที่หาง่าย ราคาถูก ดีกว่าอาหารเสริมหลายๆรูปแบบตามท้องตลาด