We do better when we know

โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies)

โรคพิษสุนัขบ้า น่ากลัวแต่ป้องกันได้ง้ายง่าย ฉีดวัคซีนป้องกัน รับรองคุ้มสุดๆ ในคอลัมน์นี้หมออยากจะแชร์ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคนี้ให้คุณผู้อ่านนะคะ

สาเหตุเกิดจากอะไร

เกิดจากเชื้อไวรัส ชื่อว่า Rabies เป็นโรคติดต่อภายในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด (mammals) รวมทั้งคนด้วย โรคนี้ไม่ได้มีความจำเพาะต่อสุนัขเลย (ฉะนั้นที่เราเรียกกันว่าโรคพิษสุนัขบ้านั้นจริงๆก็ไม่ถูกสักทีเดียว) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น แมว หนูชนิดต่างๆ กระต่าย  แรคคูน หมาป่า สกั๊งค์ และค้างคาว สามารถติดต่อและป่วยได้หมด ฉะนั้นผู้เลี้ยงสัตว์จึงจำเป็นต้องนำสัตว์เลี้ยงไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างสม่ำเสมอ จริงๆแล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเราเช่นกันที่จะได้รับวัคซีนนี้  ที่เห็นได้ประจำคือ ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ทั่วไป

โรคนี้หากป่วยแล้ว โอกาสตาย 100% ไม่มีใครสามารถรอดชีวิตได้เลยหากแสดงอาการป่วยแล้ว 

ช่องทางหลักของการติดต่อคือ สัตว์ที่ป่วยจะมีเชื้อไวรัส Rabies ปะปนออกมากับน้ำลาย เมื่อไปกัดผู้อื่นก็จะแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางบาดแผล หากผู้ที่ถูกกัดไม่ได้รับการรักษาอย่างทันทีด้วยการฉีดเซรุ่ม ร่วมกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้วนั้น เชื้อโรคจะค่อยๆ แพร่กระจายเชื้อเข้าสู่สมองส่วนกลางผ่านทางเส้นประสาทในที่สุด

ด้วยความที่เชื้อไวรัสเดินทางตามเส้นประสาทด้วยความเร็วประมาณ 10 นาโนเมตร ถึง 400 มิลลิเมตร ต่อวัน จึงมักพบว่า ระยะฟักโรคนั้นมีความยาวนานได้ตั้งแต่ 3 ถึง 24 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นกับตำแหน่งที่เชื้อเข้าสู่ร่างกายและอายุของผู้ถูกกัด

นอกจากการรับเชื้อผ่านบาดแผลโดยตรงแล้ว ในอดีตมีรายงานเช่นกันว่า สามารถพบผู้ติดเชื้อ Rabies ผ่านทางอากาศในผู้ที่เข้าไปในถ้ำที่มีค้างคาวติดเชื้ออาศัยอยู่ โดยคาดว่าได้รับเชื้อจากสิ่งคัดหลั่งของค้างคาวที่มีเชื้อไวรัสติดปนมาในปริมาณมาก(เข้มข้น) นอกจากนี้ก็เคยพบมีการติดเชื้อจากการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อพิษสุนัขบ้า อีกทั้งพบว่าสามารถถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกทางรกได้อีกด้วย 

เชื้อไวรัสมักพบในน้ำลายได้ก่อนที่จะแสดงอาการป่วย 1-5 วัน และพบได้ตลอดจนสัตว์ป่วยนั้นตายลงซึ่งมักมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 13 วัน 

อาการเป็นอย่างไร

อาการป่วยหลักๆของคนและสัตว์ก็จะคล้ายๆกัน เมื่อเชื้อไวรัสแพร่พันธุ์มาถึงสมองส่วนกลาง ก็จะเริ่มแสดงอาการกล้ามเนื้อต่างๆ เริ่มเป็นอัมพาต เริ่มมีพฤติกรรมต่างๆเปลี่ยนไป จำเจ้าของไม่ได้ กล้ามเนื้อที่ใช้สำหรับกลืนกินอาหารเริ่มมีปัญหาทำให้กินอาหารและน้ำไม่ได้ ทั้งๆที่หิว 

ในสัตว์ที่ป่วย จะมีอาการได้ 2 แบบ ได้แก่ 

  1. แบบซึม คือเขามักจะหลบอยู่มุมมืด เพราะมีความไวต่อแสงแดดจ้า ไม่ยอมกินอาหาร สุดท้ายก็ตายไป 
  2. แบบอาละวาดก่อนตาย หมอผู้เขียนจำได้ติดตา สำหรับสุนัขที่แสดงอาการแบบที่สองนี้ น่าสงสารมากๆ เขามีอาการไข้สูง หางตก ปากอ้าตลอดเวลา หุบปากไม่ได้ มีเศษดินติดตามลิ้นที่ห้อยออกมา อยากกินน้ำก็กินไม่ได้ จะหงุดหงิด และมีแนวโน้มจะกัดคนที่จะเข้ามาจับตัว เขาจำเจ้าของตัวเองไม่ได้

ทำอย่างไรดี หากไม่แน่ใจว่าเป็นโรคนี้หรือเปล่า

หากเจ้าของพบว่า สุนัขดูมีอาการป่วยดูคล้ายกับที่บรรยายไว้ข้างต้น แต่ผู้เลี้ยงไม่แน่ใจ หมอผู้เขียนมีข้อแนะนำดังต่อไปนี้

  1. ผู้เลี้ยงพาเขาไปอยู่ในกรง หรือพื้นที่เฉพาะ เพื่อเฝ้าดูอาการ 
  2. กรุณาอย่าลืมวางอาหารและน้ำให้เขาด้วย เพราะโอกาสที่เขาป่วยเป็นโรคอื่นนั้นสูงอยู่มาก เนื่องในปัจจุบันพบโรคพิษสุนัขบ้าน้อยลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับในอดีต หากเจ้าของไม่วางน้ำอาหารไว้ หมอเกรงว่า เขาอาจจะทรมานจากการขาดอาหารและน้ำแทน…ซึ่งคงไม่ใช่สิ่งที่ดีเป็นแน่ 
  3. จากนั้นโทรตามสัตวแพทย์ใกล้บ้าน ให้หมอมาช่วยประเมินอาการ เจ้าของควรให้สัตวแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยโรคเท่านั้น 

การรักษาทำอย่างไร

หากได้รับการยืนยันและวินิจฉัยของสัตวแพทย์แล้วว่าสัตว์น่าจะติดเชื้อ Rabies เมื่อมีอากรป่วยแล้วนั้น จะไม่สามารถรักษาได้ เขามักจะตายใน 7-10 วันต่อมา 

หากเจ้าของถูกสัตว์ป่วยกัด และสงสัยว่าอาจมีเชื้อ Rabies ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาอย่างทันทีด้วยการฉีดเซรุ่ม ล้างแผลที่สัมผัสเชื้อ รวมถึงรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าด้วย

อย่างที่กล่าวมาข้างต้น อุบัติการณ์โรคนี้น้อยลงมากในปัจจุบัน โอกาสพบเจอจริงๆนั้น จึงน้อยลงไปมาก จึงมีโอกาสค่อนข้างสูงที่สัตว์เลี้ยงเราอาจป่วยด้วยโรคอื่น ดังนั้นสัตว์เลี้ยงควรได้รับการรักษาตามการวินิจฉัยต่อไป อย่างไรก็ตามสัตว์เลี้ยงยังจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างสม่ำเสมอ

สัตว์เลี้ยงของเราต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า Image from freepik.com

สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทย 

สำหรับข้อมูลการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทย จากการรายงานของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในปี 2561 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 18 ราย ซึ่งมาจากจังหวัดบุรีรัมย์ ระยอง สงขลา และตาก จังหวัดละ 2 ราย จากจังหวัดสุรินทร์ ตรัง นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง หนองคาย ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย โดยข้อมูลการสอบสวนโรคพบว่า มากกว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยไม่ได้รับการฉีดวัคซีนภายหลังจากที่โดนสุนัขกัดหรือข่วน

เมื่อสัตว์เสียชีวิตจากโรคนี้

เราควรต้องระมัดระวังในเรื่องของการจับต้องและห่อหุ้มซากสัตว์อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการปนเปื้อน สิ่งที่ต้องระวังคือ ผู้ที่เก็บซากสัตว์ต้องไม่มีแผลที่มือ ต้องใส่ถุงมือยางชนิดหนา ซากสัตว์และอุปกรณ์ที่เปื้อนให้ฝังดินกลบลึกอย่างน้อย 50 เซนติเมตร 

เนื่องจากโรคนี้สามารถกลายเป็นโรคระบาดได้ เราต้องทำการแจ้งความให้กับกรมปศุสัตว์และกระทรวงสาธารณสุขทราบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนแหล่งที่มา และผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพื่อการควบคุม และป้องกันไม่ให้การระบาดขยายวงกว้างออกไป

สถานที่ภาครัฐที่ประชาชนสามารถติดต่อเพื่อรายงานโรค

เขตกรุงเทพมหานคร

  1. สถานเสาวภา สภากาชาดไทย
  2. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ภาคกลาง

  1. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข นนทบุรี
  2. สำนักงานปศุสัตว์เขต 1 ปทุมธานี
  3. สำนักงานปศุสัตว์เขต 7 นครปฐม
  4. สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชัยนาท

ภาคตะวันออก

  1. ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 2 ชลบุรี
  2. โรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
  3. สำนักงานปศุสัตว์เขต 2 ฉะเชิงเทรา
  4. ศูนย์วิจัยและชันสูตรโรคสัตว์ อ.บ้านบึง ชลบุรี

ภาคเหนือ

  1. ศูนย์วิจัยและชันสูตรโรคสัตว์ อ.ห้างฉัตร ลำปาง
  2. คณะแพทยศาสตร์ มช.
  3. สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 เชียงใหม่
  4. สำนักงานปศุสัตว์เขต 6 พิษณุโลก
  5. สำนักงานปศุสัตว์ กำแพงเพชร / เพชรบูรณ์
  6. ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ อ.เมือง เชียงราย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  1. ศูนย์วิจัยและชันสูตรโรคสัตว์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอนแก่น
  2. ศูนย์วิจัยและชันสูตรโรคสัตว์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สุรินทร์
  3. สำนักงานปศุสัตว์ สกลนคร / บุรีรัมย์ / อุดรธานี / กาฬสินธุ์ / ศรีสะเกษ 
  4. สำนักงานปศุสัตว์ ชัยภูมิ / อำนาจเจริญ
  5. สำนักงานปศุสัตว์  เขต 3 นครราชสีมา
  6. ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอนแก่น
  7. ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 3 นครราชสีมา

ภาคใต้

  1. ศูนย์วิจัยและชันสูตรโรคสัตว์ภาคใต้ อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช
  2. สำนักงานปศุสัตว์ เขต 8 สุราษฎร์ธานี
  3. สำนักงานปศุสัตว์ เขต 9 สงขลา
  4. ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 1 สงขลา

สพ.ญ. พจมาน วัชราภิชาต
Latest posts by สพ.ญ. พจมาน วัชราภิชาต (see all)